ตำรวจอินเดียได้มีการเปิดเผยว่ามีการร้องเรียนเกี่ยวกับการก่อ อาชญากรทางไซเบอร์ ในประเทศอินเดีย โดยในปี 2020 นั้นพบว่าร้อยละ 62 ของเรื่องร้องเรียนทั้งหมดเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงทางการเงิน เหตุผลส่วนหนึ่งเกิดขึ้นเนื่องจากการปิดเมืองเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศอินเดีย ที่ทำให้มีการทำธุรกรรมทางการเงิน การซื้อของผ่านออนไลน์กันมากขึ้น ร้อยละ 24 เกี่ยวข้องกับการถูกคุกคามทางออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็น Facebook Tiktok YouTube Twitter และ Instagram ส่วนที่เหลืออีกประมาณร้อยละ 14 ของเรื่องร้องเรียนจะเกี่ยวข้องกับการโจรกรรมข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ นอกจากนี้ยังพบว่าการขู่กรรโชกโดยการดัดแปลงวิดีโอของผู้คนในสังคมนั้นเกี่ยวข้องกับพฤติกรรทางเพศที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้อาชญกรรมทางไซเบอร์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมทางการเงินที่เพิ่มขึ้นนี้ เป็นเหมือนกับหลายๆ ประเทศทั่วโลก ที่เป็นผลต่อเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เช่นกัน

อาชญากรทางไซเบอร์ ในประเทศอินเดียกับการคุกคามทางออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ
นอกจากนี้ยังได้พบว่ามีบริษัทจดทะเบียนบางรายมีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการหลอกลวงทางคอลเซ็นเตอร์ของกรมสรรพากร ที่สามารถจับกุมพนักงานได้ถึง 125 คน ที่ทำการโทรไปหลอกลวงชาวต่างชาติ หรือบุคคลในประเทศที่สามารถสื่อสารด้วยภาษาต่างประเทศได้ โดยจะเป็นการแอบอ้างโดยใช้ข้อมูลทางด้านเทคนิคจากบริษัทเทคโนโลยีที่มีชื่อเสียงอย่าง Microsoft Apple HP และ AT&T

อีกทั้งยังมีการใช้วิธีที่นิยมใช้กันโดยทั่วไปด้วย คือการรีดไถทางการเงิน โดยใช้การข่มขู่ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการดำเนินการทางกฎหมาย อย่างเช่น การไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวกับภาษีอากร การใช้เลขประจำตัวประกันสังคมไปในทางที่ผิดกฎหมาย หรือการเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย โดยเนื้อหาทั้งหมดที่นำมาข่มขู่นั้นเป็นเรื่องที่สร้างขึ้นมาเองทั้งหมด ซึ่งตำรวจของอินเดียสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดในเรื่องดังกล่าวได้มากกว่า 214 ราย
ส่วนการระงับบัญชีผู้ใช้งาน Facebook Instagram Tiktok และ Youtube จำนวนถึง 278 บัญชี เนื่องจากมีการแสดงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ที่ส่วนมากจะเป็นการแสดงเนื้อหาที่คุกคามทางออนไลน์ ที่ทำให้ผู้ที่กล่าวถึงนั้นได้รับความเสียหาย และยังมีบัญชีของ Twitter เพียงอย่างเดียวที่ถูกระงับการใช้งานมากถึง 140 บัญชี
หากคุณไม่อยากพลาดข่าวคอมพิวเตอร์ และRansomware โจรกรรมข้อมูลโรงพยาบาลและขู่จะเผยแพร่รูปศัลยกรรมของผู้ป่วย อย่าลืมติดตามกันได้ที่ mambodocman.com