ข้อควรระวังสำหรับผู้ที่ใช้เทคโนโลยีมากไปอาจจะทำให้ “สมองเสื่อม” ได้

ในยุคสมัยปัจจุบันที่ทุกอย่างล้วนเป็นดิจิตอลไปหมดทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้ความจำ ทำให้อาการ สมองเสื่อม อาจจะเริ่มาถามหาได้ เพราะในยุคสมัยนี้ที่ เทคโนโลยี ได้เข้ามาเป็นสิ่งของในชีวิตประจำวันที่ใครหลายคนขาดไปไม่ได้เลยสำหรับ มือถือสมาร์ทโฟน ที่ใช้ในการบันทึกเบอร์ศัพท์ เลขบัตร ATM และบางคนอาจจะบันทึกเลขบัตรประชาชนไว้ด้วยก็เป็นได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นสิ่งสำคัญที่ควรจดจำไว้ให้ได้เสมอ แต่เมื่อมีสิ่งที่ช่วยอำนวยความสะดวกมากมายทำให้ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องใช้ความจำ ซึ่งแน่นอนว่าสมองของมนุษย์ถ้าเกิดไม่ได้รับการใช้งานบ่อยก็จะทำให้เสื่อมสภาพไปได้โดยเร็ว จึงเป็นสิ่งที่ควรระวังเพราะไม่ใช่แค่เพียงผู้สูงอายุแต่วัยรุ่นก็สามารถเป็นได้เช่นเดียวกัน

ใช้เทคโนโลยีมากไปอาจจะทำให้ “สมองเสื่อม”

ต้นตอสาเหตุที่ทำให้เกิดโรค สมองเสื่อม

สิ่งที่หลายคนต่างมองข้ามจนทำให้เกิดโรคสมองเสื่อม เนื่องจากการพัฒนาของเทคโนโลยีได้มีความก้าวหน้าไปไกล ด้วยวิวัฒนาการที่มีความหลากหลายที่ไม่ว่าอะไรก็ไม่จำเป็นต้องใช้แรงหรือความจำเพียงแค่ปลายนิ้วมือการสามารถสั่งการและควบคุมทุกอย่างได้ ทำให้การเคลื่อนไหวของร่างกายและสมองพัฒนาช้าลงกว่าที่คิด ต่อมาการน้ำหนักตัวก็จะเพิ่มขึ้นได้เนื่องจากการเคลื่อนไหวที่ไม่จับเป็นต้องเดินทางมากมายนัก ทำให้โรคที่มากจาก พฤติกรรมการใช้ชีวิต ที่ผิดและยังมองข้ามบุคคลรอบกายทำให้เกิดหลายโรคตามมาได้อย่างนับไม่ถ้วน สิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นถ้าหากรู้จักใช้ เทคโนโลยี แต่พอประมาณ

ใช้เทคโนโลยีมากไปอาจจะทำให้ “สมองเสื่อม”

ขั้นตอนวิธีการรักษา

โรคสมองเสื่อม ไม่ใช่อาการที่น่ากลัวมานักถ้าหากรู้จักปรับเปลี่ยน พฤติกรรมการใช้ชีวิต ให้อยู่ห่างออกจาก เทคโนโลยี ให้พอประมาณรู้จักการแบ่งเวลาในการใช้งานและอยู่กับสิ่งรอบข้างให้มากขึ้น อย่างเช่นการออกกำลังกายพบปะกับผู้คนพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน ฝึกฝนสมองให้มีความจำอยู่ตลอดเวลาเริ่มต้นจากสิ่งรอบตัวอย่างการหางานอดิเรกที่ชอบที่ไม่ว่าจะเป็น การอ่านหนังสือ เล่นดนตรีโดยไม่จำเป็นตัวดูเนื้อเพลงหรือตัวโน๊ต และสุดท้ายการเริ่มต้นหาสิ่งใหม่ๆ ในการเรียนรู้อย่างการปลูกต้น หรือเล่นกับสัตว์เลี้ยงก็จะเป็นการผ่อนคลายสมองที่ดีมากเลยทีเดียว

หากคุณไม่อยากพลาดข่าวคอมพิวเตอร์ หรือข่าวสารเทคโนโลยีอื่นๆ เช่น “SECUMAIL” โปรแกรมที่จะช่วยป้องกันการถูกแฮกอีเมล อย่าลืมติดตามกันได้ที่ mambodocman.com